สวัสดีค่ะ พวกเราขอต้อนรับผู้เยี่ยมชม บล็อกนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับระบบกระดูกของร่างกายมนุษย์
ระบบโครงกระดูก
http://bfsave189.files.wordpress.com/2013/10/e0b8a3e0b8b0e0b8b0e0b982e0b884e0b8a3e0b887e0b881e0b8a3e0b8b0e0b894e0b8b9e0b881.jpg
ระบบกระดูกของมนุษย์ทำหน้าที่พยุงและป้องกันอวัยวะภายในของร่างกายตลอดจนเป็นที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อประกอบด้วยโครงกระดูกมากกว่า
200 ชิ้น
โครงกระดูกมีหน้าที่สำคัญ ดังนี้
- ค้ำจุนละรักษารูปร่างให้ทรงตัวอยู่ได้
- ป้องกันอวัยวะภายในร่างกาย
เช่น กระดูกซี่โครงป้องกันหัวใจ ปอด และตับ กะโหลกศีรษะป้องกันเนื้อเยื่อสมอง
เป็นต้น
- เป็นที่ยึดเกาะของเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ
รวมทั้งพังผืด
- สร้างเม็ดเลือด
ไขกระดูกที่อยู่ภายในกระดูกจะทำหน้าที่สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว
- ช่วยในการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะกระดูกยาวทำให้เราสามารถเคลื่อนไหวได้เป็นมุมที่กว้างขึ้น
- เป็นแหล่งสะสมสำคัญของธาตุแคลเซียมละฟอสฟอรัส
- บางชนิดยังช่วยในการนำคลื่นเสียง
ช่วยในการได้ยิน เช่น กระดูกค้อน ทั่ง และ โกลน ซึ่งอยู่ในหูตอนกลาง
ทำหน้าที่นำคลื่นเสียงผ่านไปยังหูตอนใน
กระดูกของคนแบ่งออกเป็น
2 กลุ่ม คือ
1.
กระดูกแกน
(Axial Skeleton) หมายถึง
กระดูกที่อยู่บริเวณกลางๆ ของร่างกาย ประกอบด้วย
http://www.rci.rutgers.edu/~uzwiak/AnatPhys/APFallLect9_files/image001.jpg
1.1
กระดูกกะโหลกศีรษะ
(Skull) ภายในกะโหลกศีรษะเป็นโพรงสำหรับบรรจุสมอง
จะมีกระดูกกะโหลกศีรษะและ
กระดูกย่อยหลายๆ ชิ้นเชื่อมติดกัน
กระดูกกะโหลกศีรษะจึงทำหน้าที่ห่อหุ้มและป้องกันสมองด้วย
http://www.skullsunlimited.com/userfiles/image/category3_family_227_large.jpg
1.2
กระดูกสันหลัง
(Vertebra) เป็นส่วนของกระดูกแกนที่ช่วยค้ำจุนและรองรับน้ำหนักของร่างกาย
กระดูกสันหลัง
เป็นแนวกระดูกที่ทอดอยู่ทางด้านหลังของร่างกาย
ประกอบด้วยกระดูกชิ้นเล็กๆ เป็นข้อๆ ติดกันด้วยกล้ามเนื้อและเอ็น
ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อจะมีแผ่นกระดูกอ่อนหรือที่เรียกทั่วไปว่า “
หมอนรองกระดูก (Intervertebral disc)”
ทำหน้าที่รองและเชื่อมกระดูกสันหลังแต่ละข้อ เพื่อป้องกันการเสียดสี
ถ้าแผ่นกระดูกอ่อนนี้เสื่อมเราจะปวดหลัง
และไม่สามารถบิดหรือเอียงตัวได้
http://www.spineuniverse.com/sites/default/files/legacy-images/dp_latcutaway-BB.jpg
1.3
กระดูกซี่โครง
(Rib) มีลักษณะเป็นซี่ๆ
มีทั้งหมด 12 คู่ หรือ 24 ชิ้น ทำหน้าที่เป็นกำแพงให้ส่วนอก
กระดูกซี่โครง
จะเชื่อมกบกระดูกอก (Sternum) ด้วยกระดูกอ่อน
ระหว่างกระดูกซี่โครงมีกล้ามเนื้อยึดซี่โครงทั้งแถบนอกและแถบใน
การหดตัวและการคลายตัวของกล้ามเนื้อ 2 ชุดนี้สลับกันเกิดการเคลื่อนที่เข้า
ออกของอากาศภายนอกและภายในช่องอก มีผลทำให้กระดุกซี่โครงเคลื่อนขึ้นและลง
และทำให้ปริมาตรภายในช่องอกเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
http://thesebonesofmine.files.wordpress.com/2011/05/rib-cage.jpg
2.
กระดูกรยางค์
(Appendicular Skeleton) หมายถึงโครงกระดูกที่อยู่รอบนอกกระดูกแกนซึ่งช่วยในการเคลื่อนไหว
ของแขน ขา โดยตรง รวมทั้งกระดูกสะบักและกระดูกเชิงกรานที่เป็นฐานรองกระดูกแขนและกระดูกขา
http://sciencecity.oupchina.com.hk/biology/student/glossary/img/appendicular_skeleton.jpg
กระดูกแขนเริ่มแต่บริเวณไหล่
มีกระดูกสะบักและกระดูกไหปลาร้าทำหน้าที่เป็นฐานรองแขน เชื่อมโยงระหว่างกระดูกสันหลังด้านบนของลำตัวกับกระดูกต้นแขน
http://nprucomed08.50megs.com/IMAGE/skeloton4.jpg
กระดูกขาเริ่มตั้งแต่บริเวณเชิงกรานที่ต่อกับกระดูกต้นขา
และจากกระดูกต้นขา
มีสะบ้าหัวเข่าที่ฝังอยู่ในเอ็นของกล้ามเนื้อและต่อกับกระดูกแข็ง
http://nprucomed08.50megs.com/IMAGE/NPRUCOMED08%20(116).jpg
ข้อต่อและเอ็นเชื่อมกระดูก
ข้อต่อเกิดจากกระดูกตั้งแต่ 2
ชิ้นขึ้นไปที่อยู่ใกล้กันมาเชื่อมหรือต่อกัน
โดยมีเอ็นหรือกล้ามเนื้อช่วยยึดเสริมความแข็งแรงให้แก่ข้อต่อ
ทำให้โครงกระดูกยืดหยุ่น ส่วนต่างๆ ของร่างกายเคลื่อนไหวไปมาได้สะดวก
ข้อต่อบริเวณต่างๆ ของร่างกายมีลักษณะต่างกัน
มีผลทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายบางส่วนแตกต่างกัน เช่น
ข้อต่อบางแห่งมีลักษณะการเชื่อมกันเหมือนบานพับ
ทำให้การเคลื่อนไหวตรงส่วนนั้นจำกัดได้ทิศทางเดียว เหมือนการเคลื่อนไหวของบานพับประตู
เช่น ข้อต่อบริเวณข้อศอก ข้อต่อบริเวณหัวไหล่มีลักษณะคล้ายลูกกลมในเบ้ากระดูก
ทำให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ข้อต่อบริเวณต้นคอมีลักษณะประกบสวมกันคล้ายเดือย
ทำให้สามารถก้ม เงย บิดไปทางซ้ายและขวาได้
ข้อต่อของกะโหลกศีรษะเป็นข้อต่อที่ยึดด้วยเอ็นพังผืดขาว
เป็นข้อต่อที่เคลื่อนไหวไม่ได้เลย
- ball and socket ด้านหนึ่งของข้อต่อ เป็นรูปกลมเคลื่อนไหวอยู่ในอีกด้านที่เป็นเบ้ารับกันพอดี
ทำให้เคลื่อนไหวได้ทุกทิศทาง เช่น ข้อไหล่ ข้อสะโพก
- ellipsoid คล้าย ball
and socket แต่เล็กทำให้หมุนไม่ได้รอบตัว
เช่น ข้อมือ
- saddle เป็นรูปอานม้า 2 ข้างประกบกัน เคลื่อนไหวได้ดี ยกเว้นการหมุน เช่น
ข้อโคนนิ้วหัวแม่มือ
- hinge แบบบานพับ เช่น ข้อศอ ข้อเข่า
- pivot เป็นวงแหวนหมุนรอบแกน ทำได้แต่หมุนเท่านั้น เช่น ข้อต่อกระดูกคออันที่ 1 กับ 2
- gliding เคลื่อนไหวได้น้อย ทำได้แค่ขยับไปมาเท่านั้น เช่น ข้อระหว่างกระดูกข้อมือ
Credit
http://www.med.cmu.ac.th/dept/vascular/human/lesson/lesson6.php
http://www.maceducation.com/e-knowledge/2422210100/09.htm